วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

10 อันดับหนังไทยทำเงินสูงสุดประจำปี 2551....




10 อันดับหนังไทยทำเงินสูงสุดประจำปี 2551....















อันดับที่ 10

บุญชู ไอเลิฟสระอู รายได้ประมาณ 40+ ล้านบาท


ค่ายไฟว์สตาร์ ได้ส่งภาพยนตร์ที่ฮิตและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมเมื่อประมาณ10 กว่าปีก่อน โดยได้ทำมาแล้วทั้งหมด 8 ภาคด้วยกัน และได้ปั้นเด็กใหม่แกะกล่องสู่วงการบันเทิงในบทบุญโชค ลูกของบุญชู ที่รับบทโดย อาร์ตี้ ธนฉัตร และนักแสดงสมทบอีกมากมาย พร้อมด้วยนักแสดงที่เล่นบุญชูมาตั้งแต่รุ่นก่อนอยู่กันพร้อมหน้า















อันดับที่ 9

รัก/สาม/เศร้า รายได้ประมาณ 45 ล้านบาท


จากค่ายหนังจีทีเฮช เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 8 ของ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค และได้กำกับหนังรักเรื่องแรกของเขาด้วย โดยมีนักแสดงนำอย่าง เป้ - อารักษ์ , ก้อย - รัชวิน ,และพีค - ภัทรศยา มารับบทนำ















อันดับที่ 8

โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต รายได้ประมาณ 48 ล้านบาท


จากค่ายหนังจีทีเฮช อีกเรื่องนึงและเป็นหนังผี 1ใน3 เรื่องที่มีรายได้ติดเข้ามา โดยนำแสดงโดย เต๋อ - ฉันทวิชช์ และพั้นช์ - วรกาญจน์















อันดับที่ 7

ลองของ2 รายได้ประมาณ 51 ล้านบาท


จากค่ายไฟว์สตาร์ และเป็นหนังแนวไสยศาสตร์ภูติผี หลังจากประสบความสำเร็จจากภาคแรกมาพอสมควร ก็ได้ทำภาคที่2 ออกมา และยังได้นักแสดงนำอย่าง มะหมี่ - นคประภา มารับบทเดิมอีกด้วย















อันดับที่ 6

ปืนใหญ่จอมสลัด รายได้ประมาณ 60 ล้านบาท


เป็นหนังของค่าย สหมงคลฟิล์ม โดยใช้ทุนสร้างไปกว่า 200 กว่าล้านบาท แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แฟนตาซี ที่ดัดแปลงจากตำนานการเสียสละเพื่อแผ่นดินของราชินี 3 พระองค์แห่งลังกาสุกะ พร้อมทั้งสะท้อนวิถีชีวิตของชนเผ่าชาวเลและโจรสลัด















อันดับที่ 5

ช็อคโกแลต รายได้ประมาณ 70 ล้านบาท


หนังของค่ายสหมงคลฟิล์มอีกเรื่อง ที่ใช้ทุนสร้างเกิน 100 ล้านบาท แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ให้กับวงการหนังไทย เมื่อได้มีนักแสดงบู๊หญิงคนแรก ที่เล่นจริง เจ็บจริง คือ จีจ้า - ญาณิน ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาเตรียมการและถ่าย ทำนานถึง 4 ปี โดยใน 2 ปีแรกนั้น จีจ้า - ญาณิน ต้องฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้มาโดยตลอด และใช้เวลาถ่ายทำอีก 2 ปี โดยที่ จีจ้า ก็ยัง ต้องฝึกซ้อมต่อไปในขณะถ่ายทำอีกด้วย















อันดับที่ 4

หลวงพี่เท่ง2 รายได้ประมาณ 82 ล้านบาท


จากค่ายพระนครฟิล์มเพียงเรื่องเดียวที่ติดเข้ามา และยังทำรายได้ได้ต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จจากหลวงพี่เท่งภาคแรกที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้าน จึงได้สร้างภาคต่อ โดยในภาคนี้ได้นักร้องฮิบฮอบอย่าง โจอี้ บอย มารับบทนำแทนที่ของ เท่ง เถิดเทิง สอดแทรกคำสอนดีๆ ผ่านเรื่องราวสนุกสนาน















อันดับที่ 3

สี่แพร่ง รายได้ประมาณ 85 ล้านบาท


เป็นหนังผีอีก 1เรื่องจากค่ายจีทีเฮช ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จกับ 4 เรื่อง ของ 4 ผู้กำกับ ผู้สร้างเปรียบความน่ากลัวของภาพยนตร์สั้นทั้งสี่เป็นเครื่องเล่นในสวนสนุกสี่แบบ เรื่อง เหงา เทียบได้กับเครื่องทิ้งดิ่งสุดสยอง (Tower Hell Drop) ที่ค่อยๆ ขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดช้าๆ ก่อนทิ้งตัวดิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว เรื่อง ยันต์สั่งตาย เทียบกับรถไฟเหาะหฤโหด (Bloody Roller Coaster) ที่มีทั้งจังหวะกระตุกและเสียวสันหลัง เรื่อง คนกลาง เสมือนล่องแก่งมรณะ (Deathly Rafting) ที่เคลื่อนที่ไปตามความคดโค้งอย่างเร็ว พร้อมโดนน้ำถาโถมเข้าใส่ สุดท้าย Last Fright เปรียบกับโคตรบ้านผี(สิง) (House of The Damn) มีบรรยากาศน่ากลัวจนขาแข็ง มีผีโผล่ออกมาอย่างคาดเดาไม่ได้ และไม่สามารถ หนีกลับออกมาได้จนกว่าจะจบ















อันดับที่ 2

ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น รายได้ประมาณ 90+ ล้านบาท


จากค่ายจีทีเฮช และประสบความสำเร็จค่อนข้างมากเลยทีเดียว กับหนังวัยรุ่น 4 แบบ ที่โดนใจทั้งเด็กจนถึงผู้ใหญ่ และยังได้แจ้งเกิด นักแสดงสาวอย่าง แพตตี้ - อังศุมาลิน เข้ามาเป็นขวัญใจของหนุ่มๆหลายๆคน(รวมถึงผมด้วย)















อันดับที่ 1

องค์บาก2 รายได้ประมาณ 130 ล้านบาท


จากค่ายสหมงคลฟิล์ม ที่แสดงนำและกำกับโดย จา พนม ยีรัมย์ ซึ่งทำเงินสูงสุดในปีนี้ด้วยรายรับสูงถึง 100 ล้านบาท ซึ่งถือเป็น หนังไทยเพียงเรื่องเดียวในปีนี้ ที่ทะลุเกิน ร้อยล้าน




เขียนโดย ที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก: ส่งความคิดเห็น (Atom)