วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อึ้ง!! แผ่นดินทรุด อีก 30 ปี กทม.อาจจมทะเล!!!








ผลการศึกษาชี้แผ่นดินทรุดอีก 100 ปีกทม.อาจจมทะเล

ผลการศึกษาโครงการวิจัยร่วมไทย-ยุโรป พบว่ามี 3
ปัจจัยที่ส่งผลทำให้น้ำทะเลเอ่อท่วมเป็นบริเวณกว้างทั่วทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลในอีก 30 ปีข้างหน้า
และอีก 100 ปี กรุงเทพฯอาจจมทะเล

      


        ผลการศึกษา โครงการวิจัยร่วม ไทย-ยุโรป
เรื่องการเคลื่อนตัวของแผ่นดินและระดับน้ำทะเล ที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม
พบว่าพื้นที่เขตบางขุนเทียนและจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก
และจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพมหานคร
ถูกระบุว่าจะเกิดการทรุดตัวของชั้นดินมากถึง 15 มิลลิเมตรต่อปี
นอกจากนี้ผลศึกษายังพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลเฉลี่ยในอ่าวไทยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกประมาณ 2
เท่า โดยบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันตก เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3 มิลลิเมตรต่อปี
และตอนเหนือของอ่าวไทยใกล้กรุงเทพมหานคร มีน้ำสูงขึ้นเฉลี่ย 4 มิลลิเมตรต่อปี
รวมถึงการลดระดับลงอย่างรวดเร็วของแผ่นเปลือกโลกในอัตรา 10 มิลลิเมตรต่อปี
หลังเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อเดือนธันวาคมปี 2547 ถ้ารวมผลการศึกษาทั้ง 3 ปัจจัย
จะส่งผลให้พื้นที่ชายฝั่งทะเลและกรุงเทพมหานคร ทรุดตัวลงเฉลี่ยปีละ 3 เซนติเมตร
โดยขณะนี้พื้นที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 1 เมตร ดังนั้นภายในอีก 30
ปี ข้างหน้า กรุงเทพและปริมณฑลจะถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง จากการสอบถามประชาชนพบว่า
คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงในอีก 30 ปีข้างหน้า
เพราะแผ่นดินเริ่มทรุดตัวลงทุกปี
ขณะที่บางคนไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้

        
ด้านนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เผยว่ากรุงเทพและปริมณฑลต้องรับมือกับปัญหาน้ำท่วมและการทรุดตัวของแผ่นดิน
รวมทั้งการกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเขตดอนเมืองเป็นพื้นที่ที่มีการทรุดตัวมากที่สุดประมาณ
4 เซนติเมตรต่อปี ภายใน 30 ปีนี้ คนกรุงจะต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมหนักขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม
ขณะที่นักวิชาการเสนอแนวทางแก้ปัญหาว่าไม่ควรใช้วิธีตั้งรับที่ชายฝั่งและถอยร่นมาเรื่อยๆ แบบเดิม
เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ควรสร้างความเข้าใจให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง
และให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกันขับเคลื่อนและตัดสินใจว่าควรจะแก้ปัญหานี้อย่างไร



ขอบคุณ ข่าวคุณภาพจาก  

 
 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น